ISAN News

อัพเดตข่าวสาร และเหตุการณ์ ในภาคอีสาน

เปิดประวัติ “เวฟ” วีรพล วิชุมา หนุ่มพลังช้างจาก สุรินทร์ เหรียญเงินที่ 3 ของไทย จากยกน้ำหนักชาย รุ่น 73 กก.

ภาพจาก AFP/Miguel MEDINA“เวฟ” วีรพล วิชุมา จอมพลังไทย ยกผ่านแบบไร้ปัญหา   โดยผลงาน  “เวฟ” วีรพล ในระดับประเทศในปี 2020  คว้า 3 เหรียทอง ทั้งในการแข่งขัน EGAT ยุวชนชิงแชมป์แห่งประเทศไทย และในรายการ EGAT เยาวชนชิงแชมป์แห่งประเทศไทย ส่วนในปี 2021 คว้า 3 เหรียญทองในการแข่งขัน EGAT เยาวชนชิงแชมป์แห่งประเทศไทย ส่วนในระดับนานาชาติ ปี 2021 คว้า  3 เหรียญทอง ในศึกยกน้ำหนักยุวชนชิงแชมป์โลก ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในปี 2022 คว้า 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงินในศึกยกน้ำหนักเยาวชนชิงแชมป์โลก รวมถึง 3 เหรียญทอง ในศึกยกน้ำหนักยุวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ที่ประเทศอุซเบกิสถาน และอีก 3 เหรียญทองแดง ในศึกชิงแชมป์โลก ที่ประเทศโคลอมเบีย จากนั้นในปี 2023 คว้า 1 เหรียญทอง และ 1 เหรียญเงิน ในศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่เมืองจินจู  ประเทศเกาหลีใต้ และคว้า 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ในศึกชิงแชมป์โลกแห่งโลก ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย และล่าสุด เหรียญเงิน ในกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน   ภาพจาก การกีฬาแห่งประเทศไทยวีรพล วิชุมา ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการมาโอลิมปิก 2024 ที่ฝรั่งเศส   โดยในโอลิมปิกครั้งแรก “เวฟ” วีรพล ก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการคว้าเหรียญเงิน ในรุ่น 73 กก.ชาย จากผลงานท่าสแนตช์ 148 กิโลกรัม คลีนแอนด์เจิร์ก 198 กิโลกรัม (ทำลายสถิติเยาวชนโลก) น้ำหนักรวม 346 กิโลกรัม “เวฟ” วีรพล จะมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ 10 ส.ค.2567 เป็นจอมพลังจาก จ.สุรินทร์ ก่อนจะคว้าเหรียญในโอลิมปิกหนนี้ได้สำเร็จ เขาเคยทำผลงานที่ยอดเยี่ยมมาแล้ว ด้วยการคว้า 2 เหรียญทอง และ 1 เหรียญเงิน จากยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ปี 2566 ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย “วีรพล” ยังเป็น เจ้าของเหรียญเงิน […]

เปิดประวัติ “เวฟ” วีรพล วิชุมา หนุ่มพลังช้างจาก สุรินทร์ เหรียญเงินที่ 3 ของไทย จากยกน้ำหนักชาย รุ่น 73 กก. อ่านเพิ่มเติม »

‘ฟ่าง ธีรพงศ์ ศิลาชัย’ หนุ่มจอมพลังจาก ศรีสะเกษ กับเหรียญเงินในโอลิมปิก สมัยแรกของเขา

ทำความรู้จักกับ ธีรพงศ์ ศิลาชัย หลังจากคว้าเหรียญทองในการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2022 มาแล้ว ล่าสุดเป็นนักยกน้ำหนักชายคนแรกของไทยที่คว้าเหรียญเงินโอลิมปิกด้วย ประวัติ ฟ่าง ธีรพงศ์ ศิลาชัย ฟ่าง ธีรพงศ์ ทำผลงานที่ยอดเยี่ยมยกผ่านรวดทั้ง 6 ลิฟต์ สถิติที่ดีที่สุดของตัวเอง หลังจากเคยทำสถิติน้ำรวมของตัวเองดีที่สุดอยู่ที่ 299 กิโลกรัม ฟ่าง ธีรพงศ์ ศิลาชัย ในวัย 20 ก้าวสู่ 21 ปีเต็มในเดือนพฤศจิกายนนี้ จากเด็กน้อยบ้านนอกจากอีสานใต้ บ้านกระเบาเดื่อ ต.กระหวัน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ฟ่างเติบโตมากับครอบครัวสู้ชีวิต พ่อขายขับรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง เร่ขายมะพร้าวน้ำหอมลูกละไม่กี่บาท ไม่แปลกใจหลังฟ่าง ธีรพงศ์ ศิลาชัย คว้าเหรียญเงิน โอลิมปิก 2024 การแข่งขันกีฬายกน้ำหนัก โอลิมปิก 2024 รุ่น 61 กิโลกรัม ด้วยการยกท่าสแนทช์ 132 กิโลกรัม ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 171 กิโลกรัม ทำให้ได้น้ำหนักรวม 303 กิโลกรัม ซึ่งบอกว่า จะเอาเงินไปสร้างบ้านให้พ่อ เหตุเพราะชีวิตลำบากมาเยอะ ธีรพงศ์ ศิลาชัย เริ่มต้นเส้นทางการแข่งขันยกน้ำหนักระดับยุวชนครั้งแรกในรายการกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 39 ขุนด่านเกมส์ ที่จังหวัดนครนายก เมื่อปี 2561 โดยลงแข่งขันในรุ่นน้ำหนัก 50 กิโลกรัมชาย เขายกได้ 90 กิโลกรัมในท่าสแนตช์ และ 115 กิโลกรัมในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก รวมน้ำหนักทั้งหมดที่ยกได้ 205 กิโลกรัม ทำให้เขาคว้าเหรียญทองในการแข่งขันครั้งนี้ไปครอง ในขณะที่ยังเป็นนักยกน้ำหนักยุวชน ธีรพงศ์ ศิลาชัย คว้าเหรียญทองในการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย เมื่อปี 2563 ณ จังหวัดนครสวรรค์ และปี 2564 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ยกได้ 100 กิโลกรัมในท่าสแนตช์ และ 134 กิโลกรัมในท่าคลีนแอนด์เจิร์กรวม 234 กิโลกรัมในปี 2563 ทำลายสถิติประเทศไทยในท่าคลีนแอนด์เจิร์กและน้ำหนักรวม และยกได้ 106 กิโลกรัมในท่าสแนตช์และ 125 กิโลกรัมในท่าคลีนแอนด์เจิร์กรวม 231 กิโลกรัม ในปี 2564 ในช่วงที่ยังเป็นนักยกน้ำหนักเยาวชน เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ในรุ่นน้ำหนัก 55 กิโลกรัม และสามารถคว้าได้ 3 เหรียญทอง (สแนตช์, คลีนแอนด์เจิร์ก และน้ำหนักรวม) ในปี 2565 ธีรพงศ์ ศิลาชัย ได้เข้าร่วมการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก 2022 เป็นครั้งแรก และสร้างผลงานอันน่าทึ่งด้วยการคว้าเหรียญทองในรุ่นน้ำหนัก 55 กิโลกรัม โดยสามารถยกน้ำหนักรวมได้ 265 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการทำลายสถิติโลกเยาวชนทั้งในท่าคลีนแอนด์เจิร์กที่ 148 กิโลกรัม

‘ฟ่าง ธีรพงศ์ ศิลาชัย’ หนุ่มจอมพลังจาก ศรีสะเกษ กับเหรียญเงินในโอลิมปิก สมัยแรกของเขา อ่านเพิ่มเติม »

จันทร์แจ่ม ความภูมิใจของชาวหนองคาย นักมวยหญิงไทยคนแรกคว้าเหรียญโอลิมปิก ปารีส 2024

เปิดประวัติน้องบี “จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง” นักมวยหญิงไทยคนแรกและคนเดียวคว้าเหรียญโอลิมปิกในประวัติศาสตร์ จากปารีสเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีของคนไทยหลังจาก “จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง” โชว์สุดยอดเพอร์ฟอร์มเอาชนะคู่แข่งมือหนึ่งจากตุรกีอย่าง “บูเซนาส ซูร์เมนลี่” เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 เข้ารอบรองชนะเลิศ และเตรียมพบกับ “อิมาน เคลิฟ” นักชกสาวจากแอลจีเรีย ที่ยังคงถูกพูดประเด็นทางเพศในโซเชียลอย่างต่อเนื่อง ด้วยความพยายามและไม่ย่อท้อทำให้ “บี” หรือ “จันทร์แจ่ม” นักมวยหญิงไทยก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของเหรียญโอลิมปิกแรกของไทยในวัย 23 ปี สร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยสำหรับโอลิมปิกเกมส์ 2024 โดยจันทร์แจ่มจะพบกับนักชกตัวเต็งของรุ่นจากแอลจีเรีย ที่กำลังพูดถึงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ “อิมาน เคลิฟ” ในขณะนี้ ประวัติ “จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง” สำหรับ บี จันทร์แจ่ม อายุ 24 ปี เป็นชาว อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ สาขาพลศึกษาและสุขศึกษา มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุโขทัย และต่อด้วยการรับราชการทหาร ติดยศจ่าอากาศตรี สังกัดทหารอากาศ บีมีความชื่นชอบในมวยจากการเห็นคุณพ่อและคุณตาชื่นชอบในการชมกีฬามวย รวมถึงที่บ้านก็ยังทำธุรกิจค่ายมวย ทำให้เมื่อโตขึ้นในวัย 12 ปี เธอก็เริ่มก้าวเท้าเข้ามาในวงการมวยด้วยชื่อ “น้องบี ป.ประสิทธิ์” ก่อนย้ายสายจากมวยไทยและไปเริ่มต้นในเส้นทางมวยสากลมาจนปัจจุบัน และเริ่มเป็นที่รู้จักจากการแข่งขันมวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยประจำปี 2019 จากการคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองในประเภทมวยหญิงรุ่น 69 กิโลกรัม “จันทร์แจ่ม” เริ่มชกมวยตอนอายุ 12 ปี โดยที่บ้านเป็นค่ายมวยและอยู่ชมรมมวยของโรงเรียน วังหลวงพิทยาสรรพ์ อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ก่อนจะมาในรอบรองชนะเลิศมวยสากลหญิงโอลิมปิก ปารีสเกมส์ “จันทร์แจ่ม” ผ่านสังเวียน สะสมประสบการจนเจนเวทีไม่น้อย ทั้ง เล่นกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ไปสู่ กีฬาแห่งชาติ และก้าวเข้าสู่ทีมชาติในนามสังกัดจังหวัดหนองคาย เข้าร่วมการแข่งขันชกมวยในหลายรายกา พูดถึงผลงานเด่นที่ผ่านมาของบีกันบ้าง กับรางวัลที่สร้างชื่อให้กับบีในวงการมวยสากล ไม่ว่าจะเป็น เหรียญเงินจากการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2022 เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน เหรียญเงินจากการแข่งขันมวยสากลหญิงชิงแชมป์โลก 2023 เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เหรียญรางวัลเหล่านี้ล้วนสร้างชื่อเสียงในวงการมวยสากลให้กับบี จนเป็นที่รู้จักของวงการ รวมถึงการแข่งขันนัดสำคัญที่เรียกได้ว่าเป็นแมตช์หยุดโลกเลยก็ว่าได้ กับการลุ้นเหรียญรางวัลของ “บี จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง” กับคู่แข่งตัวเต็งอย่าง “อิมาน เคลิฟ” ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ เวลา 03.34 น. ตามเวลาในประเทศไทย โอลิมปิก ปารีส 2024: วันนี้ 7 สิงหาคม 2567 เวลา 03:34 น. ตามเวลาในประเทศไทย ผลการแข่งขันมวยสากลโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่าง “จันทร์แจ่ม

จันทร์แจ่ม ความภูมิใจของชาวหนองคาย นักมวยหญิงไทยคนแรกคว้าเหรียญโอลิมปิก ปารีส 2024 อ่านเพิ่มเติม »

ททท. จัดงาน Vijitr วิจิตร 5 ภาค @อุบลราชธานี จัดเต็มปรากฎการณ์แสง สี ศิลป์ รวม 15 จุดการแสดงใน 7 พื้นที่ประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี

ททท. จัดงาน Vijitr วิจิตร 5 ภาค @อุบลราชธานี จัดเต็มปรากฎการณ์แสง สี ศิลป์ รวม 15 จุดการแสดงใน 7 พื้นที่ประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการจัดการดำเนินงานของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทำโครงการ VIJITR 5 ภาค ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย กับงาน VIJITR 5 ภาค @อุบลราชธานี “แสงศิลป์แห่งศรัทธา” ในวันที่ 13-21 กรกฎาคม 2567 ณ จังหวัดอุบลราชธานี จัดเต็มปรากฎการณ์แสง สี ศิลป์ รวม 15 จุดการแสดงใน 7 พื้นที่ประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี เป็นพื้นที่แรกของการจัดงาน ถือเป็นกิจกรรมโครงการตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่จะช่วยสร้างการรับรู้พื้นที่อัตลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานีได้อย่างชัดเจน แล้วยังมีการผสมผสานวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์ก่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในยามค่ำคืน ทำให้เกิดการขยายเวลาการท่องเที่ยวในช่วงกลางคืนได้เป็นอย่างดี ภาพบรรยากาศพิธีเปิดงาน “VIJITR 5 ภาค @อุบลราชธานี” แสงศิลป์แห่งศรัทธา ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 งานแสดง แสง สี เสียง สุดยิ่งใหญ่ ในจังอุบลราชธานี #ที่ไม่ควรพลาด เชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านมาชมและสัมผัสกับความสวยงาม ของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี ผ่านการแสดงเทคนิคแสง สี เสียงในรูปแบบสมัยใหม่ ทั้ง Light Up, Projection Mapping, การแสดงศิลปวัฒนธรรมที่สะท้อนความงดงามของวิถีชีวิต ภูมิปัญญาและประเพณีท้องถิ่น ใน 7 พิกัด 15 จุดการแสดง คือ ทุ่งศรีเมือง 6 จุด 1.ประเพณีแห่งศรัทธา 2.แสงเรืองรองส่องศรัทธา 3.แสงศิลป์ยุคสมัย 4.สถาปัตยศิลป์ 5.วันวานที่สานศิลป์ 6.เปลวเทียนส่องศิลป์ ศาลหลักเมือง 1 จุด 7.แสงศิลป์ ศิวิไล พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี 4 จุด 8.แสงสี ศิลป์ ราชธานี 9.รากเหง้าศรัทธาศิลป์ 10.ศรัทธาที่ผลิบาน 11.เจริญศิลป์เรืองรอง วัดสุปัฏนารามวรวิหาร 1 จุด 12.สุปัฏตยศิลป์ วัดทุ่งศรีเมือง หอไตรกลางน้ำ 1 จุด 13.แสงศิลป์ยอดพระไตร วัดบูรพาราม 1 จุด 14.แสงศิลป์บัวพ้นน้ำ วัดมหาวนาราม 1 จุด 15.สวรรค์แสงศิลป์ #เข้าชมฟรี 13 – 21

ททท. จัดงาน Vijitr วิจิตร 5 ภาค @อุบลราชธานี จัดเต็มปรากฎการณ์แสง สี ศิลป์ รวม 15 จุดการแสดงใน 7 พื้นที่ประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุบลราชธานี อ่านเพิ่มเติม »

แห่เทียน 67 อุบลจัดใหญ่ “คัมโฮม อุบล 2024” โซนกิจกรรมพื้นที่สร้างสรรค์ ฟังลำ เสพศิลป์ กินข้าว

  🎈มื้อสันวันดี 18 – 22 กรกฎาคม ปีนี้ เฮามีนัดกันที่หน้า รร 9 ชั้นเด้ออ กับ… กิจกรรม “คัมโฮม อุบล 2024” วันที่ 18,19,22 เริ่มตั้งแต่เวลา 15.00-22.00 น. และวันที่ 20,21 (วันแห่เทียน)เริ่มตั้งแต่เวลา 08.00-22.00 น. แผนผังโซนกิจกรรม 🌟ไฮไลท์เด็ด🌟 ✅Street Food ✅Street Art ✅Music Show ✅WorkShop 🕺🏻💃🏻 มาม่วนนำกัน เมือมาบ้าน มาโฮมกัน มานั่งเล่น ฟังลำ เฮามีอาหาร เครื่องดื่ม มีแนวเฮ็ดตะฮักๆ ไว้คอยต้อนรับพี่ๆน้องๆทุกคน แล้วพ้อกันที่งาน “คัมโฮม อุบล” เด้อค่าา 💖 เพจ:ComeHomeUbon ปล.ไผมาบ่ถืก โลเคชั่นตามนี้เลยนะคะ 🔻 📍โลเคชั่น รร 9 ชั้นค่าาา (อุบลโฮเต็ล) #comehomeubon #งานประเพณีแห่เทียนพรรษา2567 #คัมโฮมอุบล #CandleFestival2024 #เมืองเก่าอุบล #หอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี #YECUBON #แห่เทียนอุบล

แห่เทียน 67 อุบลจัดใหญ่ “คัมโฮม อุบล 2024” โซนกิจกรรมพื้นที่สร้างสรรค์ ฟังลำ เสพศิลป์ กินข้าว อ่านเพิ่มเติม »

20 ส.ค.นี้ รฟท.เปิดประมูลทางคู่เฟส 2 สายแรก”ขอนแก่น-หนองคาย”2.87 หมื่นล้าน ลุยโยธาติดตั้งระบบ 3 ปี เปิดบริการปี 70

ใกล้แล้ว! รฟท.เปิดประมูลก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 สายแรก ช่วงขอนแก่น-หนองคาย 167 กม. ราคากลาง 28,719.94 ล้านบาท กำหนดยื่นซองขายซอง 20 ส.ค.67 คาดเซ็นสัญญาปลายปี 67 ลุยก่อสร้าง 3 ปี เปิดบริการปี 70 รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (21 มิ.ย.67) นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ลงนามออกประกาศประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ด้วยวิธีประกวดราคา.อิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคากลาง 28,719.94 ล้านบาท โดยกำหนดยื่นข้อเสนอ วันที่ 20 สิงหาคม 2567 เวลา 09.00-12.00 น. และคาดว่าจะสรุปได้ตัวผู้รับจ้างภายในเดือนตุลาคม 2567 ลงนามสัญญาปลายปี 2567 เริ่มก่อสร้างต้นปี 2568 ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน แล้วเสร็จเปิดบริการ ปลายปี 2570โดยโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. โดยเป็นการก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มอีก 1 ทางขนานไปกับทางรถไฟเดิม และปรับแนวเส้นทางใหม่บางส่วน พร้อมติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและระบบโทรคมนาคมตลอดสายทาง กำหนดระยะเวลาส่งมอบ 1,080 วัน นับถัดจากวันที่ รฟท.แจ้งให้เริ่มงาน สำหรับ TOR กำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ต้องมีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่ประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางรถไฟในวงเงินไม่น้อยกว่า 4,313.85 ล้านบาท และต้องเป็นงานที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐโดยตรง หรือหน่วยงานเอกชนที่ รฟท.เชื่อถือกรณีเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยซึ่งได้จดทะเบียนเกินกว่า 1 ปีกำหนดให้มีมูลค่าสุทธิของกิจการจากผลต่างระหว่างสินทรัพย์สุทธิหักด้วยหนี้สินสุทธิที่ที่ปรากฎในงบแสดงฐานะทางการเงิน ซึ่งต้องมีค่าเป็นบวก 1 ปีสุดท้ายก่อนยื่นข้อเสนอ กรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่งยังไม่มีการรายงานงบแสดงฐานะการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้พิจารณาการกำหนดมูลค่าของทุนจดทะเบียน โดยผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องมีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระมูลค่าหุ้นแล้ว ณ วันที่ยื่นข้อเสนอ ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท เป็นต้นกรณีผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นนิติบุคคลรายเดียว ต้องเป็นนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียว ไม่น้อยกว่า 4,313.85 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว กรณีผู้ยื่นข้อเสนอที่เป็นกิจการร่วมค้า ต้องมีนิติบุคคลไทยที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทยป็นผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) โดยสมาชิกทุกรายที่รวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้านั้นต้องเป็นนิติบุคคล และต้องมีสัดส่วนนิติบุคคลไทยรายเดียวหรือมากกว่าหนึ่งรายรวมกันในการร่วมค้ามากกว่าร้อยละ 50 โดยผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) จะต้องมีสัดส่วนการร่วมค้ามากที่สุดและสัดส่วนนี้จะต้องไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งในวันยื่นเอกสารประกวดราคา จะต้องยื่นเอกสารข้อตกลงสำหรับการร่วมกันเป็นกิจการร่วมค้า โดยต้องมีผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียว ไม่น้อยกว่า4,313.85 ล้านบาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วโดยสามารถนำผลงานก่อสร้างของผู้เข้าร่วมค้าหลัก (Lead Firm) เป็นผลงานของกิจการร่วมค้าได้และผู้เข้าร่วมค้ารายอื่น ๆ ของกิจการร่วมค้าทุกรายต้องมีผลงานอย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ก) ผลงานก่อสร้างทางรถไฟ(ก) ที่มีมูลค่าก่อสร้างในสัญญาเดียวไม่น้อยกว่า 900

20 ส.ค.นี้ รฟท.เปิดประมูลทางคู่เฟส 2 สายแรก”ขอนแก่น-หนองคาย”2.87 หมื่นล้าน ลุยโยธาติดตั้งระบบ 3 ปี เปิดบริการปี 70 อ่านเพิ่มเติม »

เปิดเส้นทาง รถไฟสายอีสาน 19 ก.ค. นี้ เริ่มแล้ว ‘รถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์’

การรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมเปิดให้บริการ เที่ยวแรก 19 กรกฎาคม 2567 นี้ ขบวนรถโดยสารระหว่างประเทศ กรุงเทพ – เวียงจันทน์ เชื่อมต่อการเดินทางทั้ง 2 ประเทศ ไทย-สปป.ลาว เริ่มจำหน่ายตั๋วแล้วตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ภาพ: การรถไฟแห่งประเทศไทย รถไฟ กรุงเทพ – เวียงจันทน์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเดินขบวนรถโดยสารระหว่าง ประเทศไทย – สปป.ลาว เส้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ขบวนแรก ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ พร้อมกับเปิดให้ผู้โดยสาร จองตั๋วโดยสารได้ตั้งแต่ 10 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป ซึ่งเปิดให้บริการไป-กลับ ประกอบด้วย รถธรรมดา ชั้น 3 (พัดลม) 152 ที่ รถนั่งปรับอากาศ ชั้น 2 จำนวน 64 ที่นั่ง รถนั่งและนอนปรับอากาศ ชั้น 2 จำนวน 30 ที่นั่ง พ่วงไปกับขบวนรถเร็วที่ 133 นอกจากนี้ ยังได้เปิดให้บริการ เส้นทางอุดรธานี –  เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) – อุดรธานี ไป-กลับ อีก 2 ขบวน รวมเป็น 4 ขบวน/วัน   PERCULIAR BOY / Shutterstock.com   สามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารและสำรองที่นั่งล่วงหน้า (สูงสุด 180 วัน) ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งผู้โดยสารจะต้องมี หนังสือเดินทาง (Passport) หรือ หนังสือผ่านแดน (Border Pass) เพื่อใช้ในการทำพิธีการทางศุลกากร และตรวจคนเข้าเมืองที่ สถานีหนองคาย และ เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ก่อนการเดินทางข้ามประเทศ เส้นทางกรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ เริ่มให้บริการ 19 ก.ค.นี้ สำหรับการเปิดเส้นทางเดินรถในครั้งนี้ ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย และรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว ได้ขยายเส้นทางขบวนรถไฟที่มีอยู่เดิม 4 ขบวน ซึ่งขบวนที่ได้รับความสนใจ คือ เส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเวียงจันทน์ เริ่มให้บริการในวันที่ 19 ก.ค.นี้ โดยรถจะออกจากกรุงเทพฯ ในช่วงกลางคืน และไปถึงเวียงจันทน์ในช่วงเช้า ภาพ: ThaiPBS สำหรับรูปแบบการให้บริการ รถจะออกเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 21.25 น. โดยจะเดินทางไปถึงที่หนองคาย เวลา 07.55 น.ในวันรุ่งขึ้น ผู้โดยสารจะมีเวลาในการทำพิธีการตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านสถานีหนองคาย 40 นาที จากนั้นก็ขึ้นรถเดินทางต่อ ในเวลา 08.35 น. โดยจะไปถึงที่สถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ในเวลา

เปิดเส้นทาง รถไฟสายอีสาน 19 ก.ค. นี้ เริ่มแล้ว ‘รถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์-เวียงจันทน์’ อ่านเพิ่มเติม »

4 จังหวัดจากอีสาน โคราช สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลฯ เตรียมเปิดสาขาใหม่ TCDC หลังจากประกาศผล 10 ทีมผู้ชนะการประกวดแบบ ที่จะปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ทั่วประเทศไปกับ “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด”

ประกาศผล 10 ทีมผู้ชนะการประกวดแบบ ที่จะปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ทั่วประเทศไปกับ “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด” หลังจากการคัดเลือกอย่างเข้มข้น ตอนนี้เราได้ผู้ชนะการประกวดแบบ “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด” ที่พร้อมจะมาเปลี่ยนโฉมพื้นที่และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทั่วประเทศมาเป็นที่เรียบร้อย ไปดูกันเลยว่า ทีมไหนที่จะมาเนรมิตพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ TCDC แห่งใหม่ในจังหวัดของคุณ! ขอขอบคุณนักออกแบบทุกท่านอีกครั้งที่ให้ความสนใจและร่วมส่งผลงานประกวดแบบ “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด” ทั้ง 113 ทีม ที่ส่งผลงานกันเข้ามาถึง 173 ผลงาน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทยในรอบ 20 ปี ติดตามศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัดได้ที่ new.tcdc.or.th #NewTCDC #CEA การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานภูมิปัญญาท้องถิ่นและความคิดสร้างสรรค์ครั้งสำคัญในรอบ 20 ปี ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ Thailand Creative & Design Center (TCDC) ภายใต้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมบนรากฐานการใช้ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงองค์ความรู้และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ที่มีความพร้อมสำหรับการก้าวสู่อนาคต   TCDC กำลังขยายเครือข่ายไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อต่อยอดคุณค่าสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม พร้อมสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยความคิดสร้างสรรค์ TCDC Chiang Rai : TCDC เชียงราย 1922 Architects (D098) TCDC Korat : TCDC นครราชสีมา บริษัท จั่นอาร์คิเทค จำกัด (D132) TCDC Pattani : TCDC ปัตตานี บริษัท ทรัพย์เปอร์ จำกัด (D010)   TCDC Phitsanulok : TCDC พิษณุโลก สถา ณ สถาปนิก (D017)   TCDC Phrae : TCDC แพร่ บริษัท เค ทู ดีไซน์ จำกัด (D011)   TCDC Phuket : TCDC ภูเก็ต บริษัท สวอน แอนด์ แมคคลาเรน

4 จังหวัดจากอีสาน โคราช สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลฯ เตรียมเปิดสาขาใหม่ TCDC หลังจากประกาศผล 10 ทีมผู้ชนะการประกวดแบบ ที่จะปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ทั่วประเทศไปกับ “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด” อ่านเพิ่มเติม »

กรมทางหลวงผลักดันโครงการถนนทดลอง วิจัยและพัฒนานำขยะพลาสติกมาผสมในแอสฟัลต์คอนกรีต ทำถนนเส้นเข้าท่าอากาศยานนครราชสีมา

จากปัญหาขยะพลาสติกที่เพิ่มขึ้น และเป็นขยะอีก 1 ประเภทที่กำจัดได้ยาก หากปล่อยให้ย่อยสลายเองก็ใช้เวลานานมากราวๆ 500 ปี จึงจะสลายได้หมด และหากจะกำหนดด้วยวิธีการอื่นๆ เช่น การเผาทิ้ง ก็จะก่อให้เกิดสารก่อมะเร็ง และไอกรดต่างๆ ที่ส่งผลทำให้โลกร้อนยิ่งขึ้นอีกด้วย   แม้ว่าในปัจจุบันมีการลดใช้พลาสติกในบรรจุภัณฑ์ต่างๆ มากขึ้น แต่ทว่าก็มีการใช้สินค้าที่มีการบรรจุในห่อพลาสติกเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารต่างๆ ที่คนนิยมซื้อแบบสำเร็จรูปมากยิ่งขึ้น ทำให้ปัญหาเรื่องขยะพลาสติกไม่ได้ลดน้อยลงเลย ซึ่งก็มีผู้เชี่ยวชาญพยายามคิดค้นหาวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำกลับมาใช้ใหม่ การกำจัดในหลายหลายรูปแบบ รวมถึงการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “การเอาขยะพลาสติกไปทำเป็นถนน” นั่นเอง   การนำขยะพลาสติกไปทำเป็นถนนนั้น จะใช้รูปแบบของการนำไปผสมกับยางมะตอยที่เราใช้ทำถนนกันปกติอยู่แล้ว ซึ่งพบว่าถนนมีความทนทานมากขึ้นกว่า 10 เท่า แถมยังมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการใช้ยางมะตอยเพียงอย่างเดียว ที่สำคัญยังช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกได้อีกด้วย ขยะพลาสติกประเภทไหนเอามาทำถนนได้บ้าง ขยะพลาสติกที่จะนำมาทำถนนได้นั้น ต้องเป็นพลาสติกประเภทที่เรียกว่า เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic) เป็นพลาสติกที่หลอมเหลวเมื่อได้รับความร้อนและแข็งตัวเมื่อเย็นลง สามารถหลอมเหลวซ้ำได้หลายครั้งโดยไม่เสียคุณสมบัติเดิม พลาสติกประเภทนี้สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ โดยยังสามารถแบ่งย่อยได้อีกหลายประเภทตามสัญลักษณ์การรีไซเคิล   PETE (Polyethylene Terephthalate) หรือ PET เป็นพลาสติกใส แข็ง ทนแรงกระแทกดี ไม่เปราะแตกง่าย และกันแก๊สซึมผ่านดี ใช้ทำขวดบรรจุน้ำดื่ม ขวดน้ำมันพืช เป็นต้น HDPE (High Density Polyethylene) หรือ HDPE เป็นพลาสติกที่เหนียวและแตกยาก ค่อนข้างแข็งแต่ยืดได้มาก ทนทานต่อสารเคมีและสามารถขึ้นรูปทรงต่างๆ ได้ง่าย ใช้ทำขวดนม ขวดน้ำ และบรรจุภัณฑ์สำหรับน้ำยาทำความสะอาด ยาสระผม เป็นต้น PVC (Polyvinylchloride) หรือ PVC เป็นพลาสติกที่ทนทานต่อสารเคมีและความร้อน ใช้ทำท่อ ฉนวนกันความร้อน อุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น LDPE (Low Density Polyethylene) หรือ LDPE เป็นพลาสติกที่เหนียวและยืดหยุ่นสูง ใช้ทำถุงพลาสติก บรรจุภัณฑ์อาหาร ฟิล์มห่อหุ้ม เป็นต้น PP (Polypropylene) หรือ PP เป็นพลาสติกที่แข็งแรงและทนทานต่อการเสียดสี ใช้ทำขวดพลาสติก ภาชนะบรรจุอาหาร ชิ้นส่วนรถยนต์ เป็นต้น PS (Polystyrene) หรือ PS เป็นพลาสติกที่น้ำหนักเบาและราคาถูก ใช้ทำถาดใส่อาหาร ถ้วย ช้อน กล่องโฟม เป็นต้น Others (อื่นๆ) เป็นพลาสติกประเภทอื่น ๆ ที่ไม่สามารถจัดอยู่ในประเภทใดประเภทหนึ่งได้ เช่น ABS, POM, PC, PETG เป็นต้น สำหรับพลาสติกประเภท PVC นั้นทางผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำให้เอามาทำถนนเนื่องจากเมื่อถูกความร้อนเกิน 180 องศาเซลเซียส ตัวพลาสติก PVC จะระเหยกลายเป็นไอของกรดเกลือซึ่งเป็นอันตรายกับสิ่งมีชีวิตนั่นเอง ขั้นตอนการนำขยะพลาสติกมาทำเป็นถนน สำหรับขั้นตอนการนำขยะพลาสติกมาทำเป็นถนนนั้นก็มีหลายขั้นตอน ดังนี้ คัดแยกขยะพลาสติก โดยแยกพลาสติกประเภทต่าง ๆ ออกจากกัน เช่น พลาสติกแข็ง

กรมทางหลวงผลักดันโครงการถนนทดลอง วิจัยและพัฒนานำขยะพลาสติกมาผสมในแอสฟัลต์คอนกรีต ทำถนนเส้นเข้าท่าอากาศยานนครราชสีมา อ่านเพิ่มเติม »

เริ่มแล้ว วันแรก!💥7 เดือน 7 นครพนม & เลย เทศกาลดึงดูดนักท่องเที่ยวเมืองรอง กระตุ้นเศรษฐกิจ

เริ่มแล้ว วันแรก!💥7 เดือน 7 นครพนม & เลย เทศกาลดึงดูดนักท่องเที่ยวเมืองรอง กระตุ้นเศรษฐกิจ . 🐉พิธีบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช 2567🙏 คณะนางรำกว่า 1,200 คนและแขกรับเชิญพิเศษ❤งดงาม อ่อนช้อย!! น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ miss universe Thailand 2559 นำพิธีรำบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช นครพนม วันที่ 7 เดือน 7 ที่ผ่านมา นครพนมคึกคัก นักท่องเที่ยวหนาแน่น ที่พักเต็มทุกแห่ง โดยงานจัดตั้งแต่ 7-13 กรกฎาคม สร้างเม็ดเงินในพื้นที่และกระตุ้นการท่องเที่ยวยกระดับเข้าสู่เมืองท่องเที่ยวหลัก ภาพจาก: สำนักงานประชาสัมพันธ์นครพนม สุดยิ่งใหญ่! นครพนมเปิดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ‘7 เดือน 7 ปี 67’ รวมพลังความเชื่อความศรัทธา มีนางรำร่วมรำบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช กว่า 1,200 คน วันที่ 7 ก.ค. 67 เวลา 19.00 น. นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ประจำปี 2567 ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ พร้อมด้วยนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายวันไซ พองสะหวัน เจ้าแขวงคำม่วง สปป.ลาว พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประชาชนชาวนครพนม นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งจังหวัดนครพนมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 7 – 13 กรกฎาคม 2567 ณ ลานพญาศรีสัตตนาคราช ริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม เพื่อสืบสานตำนานความเชื่อความศรัทธาชาวลุ่มน้ำโขงที่มีต่อพญานาค ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนมในการยกระดับเข้าสู่เมืองหลัก และกระจายได้จากการท่องเที่ยวสู่ชุมชน สนับสนุน Soft Power ตามนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งเป็นการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม ที่มา: สวท.นครพนม FM 90.25 MHz . 🐲เทศกาลผีตาโขน นครพนม . งานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน ประจำปี 2567 อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย วันที่ 7 กรกฎาคม 2567 เวลา 03:30 น. พิธีบวชพราหมณ์ ณ วัดโพนชัย เวลา 04:00 น. พิธีเบิกพระอุปคุต ณ บริเวณระหว่างลำน้ำหมัน ลำห้วยศอก เวลา 06:00 น.

เริ่มแล้ว วันแรก!💥7 เดือน 7 นครพนม & เลย เทศกาลดึงดูดนักท่องเที่ยวเมืองรอง กระตุ้นเศรษฐกิจ อ่านเพิ่มเติม »

Scroll to Top