จับตาเบิ่ง นโยบายดันไทยเป็น Medical Hub หนุนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ “ธุรกิจ wellness” เติบโตสูง

ข้อมูลสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในปี 2564 มีผู้สูงอายุที่อายุเกิน 60 ปี ประมาณ 13 ล้านคน หรือราว 20% ของประชากรทั้งประเทศ และมีการประเมินว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า ปี 2575 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสูงสุดคือมีคนอายุเกิน 60 ปี สูงถึง 28% ทำให้กระแสการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ Wellness Tourism กลายเป็นธุรกิจมาแรง

ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้ารายได้รวมการท่องเที่ยวปี 2566 ไว้ 2.38 ล้านล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 30 ล้านคน สร้างรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท และนักท่องเที่ยวชาวไทย 135 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 880,000 ล้านบาท ทำให้ธุรกิจ Wellness คึกคักมากยิ่งขึ้น

ธุรกิจ Wellness จึงเป็นอีกหนึ่ง Mega Trend ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ยิ่งขณะนี้กระแสการรักสุขภาพ เทรนด์การดูแลสุขภาพในเชิงป้องกันและรักษามาแรง ทำให้อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมดังกล่าวก้าวกระโดด

วันที่ 5 มิถุนายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับภาคีเอกชน และ 10 เครือข่ายมหาวิทยาลัย ได้แก่
– มหาวิทยาลัยขอนแก่น
– มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
– มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
– มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
– มหาวิทยาลัยแม่โจ้
– มหาวิทยาลัยบูรพา
– มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
– มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
– มหาวิทยาลัยพายัพ
– มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
การส่งเสริมการลงทุนในเขตนวัตกรรมและพื้นที่ของ กฟผ. เพื่อพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ

ทั้งนี้ กฟผ. จะจัดทำแผนแม่บทบูรณาการเชื่อมโยงร่วมกับกฎบัตรไทยและเครือข่ายมหาวิทยาลัยในแต่ละภาคของประเทศ เพื่อกำหนดเป็นแผนยุทธศาสตร์ประจำภาค สำหรับพัฒนาชุมชนในแต่ละจังหวัด โดยมีเขื่อนของ กฟผ. เป็นศูนย์กลางดำเนินงานและเชื่อมโยงสู่ชุมชนซึ่งจะนำร่องในพื้นที่เป้าหมาย 9 แห่งทั่วประเทศ ดังนี้
– ภาคเหนือ 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ และเขื่อนภูมิพล จ.ตาก
– ภาคใต้ 2 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้ากระบี่ จ.กระบี่ และเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จ.นครราชสีมา และเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ
– ภาคตะวันตก 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี

ธุรกิจป้องกันโรคเติบโตมากกว่าธุรกิจรักษาโรค จริงหรือไม่?

Wellness คือ การมีความสุขและมีสุขภาพที่ดีในทุกช่วงวัยเพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่ทำให้คนมีความสุขและสุขภาพดีจะอยู่ในขอบเขตของธุรกิจ Wellness ซึ่งแนวโน้มของธุรกิจ wellness องค์การอนามัยโลก ระบุชัดเจนว่า ธุรกิจการป้องกันโรคจะมีอัตราการเติบโตมากกว่าธุรกิจการรักษาโรคอย่างแน่นอน ยิ่งขณะนี้มนุษย์มีความเจริญมากขึ้น มีรายได้มากขึ้น ทุกคนคำนึงถึงสุขภาพและความสุขของตัวเองมากขึ้น และการป้องกันทุกคนมักจะมองว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองไม่เป็นโรค

อย่างไรก็ตาม บทบาทของมหาวิทยาลัยทั้ง 10 แห่งที่ร่วมกันครั้งนี้ จะเป็นการทำงานร่วมกันใน 3 ด้าน ได้แก่ 1.ศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับธุรกิจเวลเนส 2.พัฒนางานวิจัย องค์ความรู้ใหม่ๆ และ 3.ศึกษาการพัฒนาบริการ อันนำไปสู่การทำให้อุตสาหกรรม Wellness มีอัตราการเติบโตสูง ทำให้การจ้างงานคนเพิ่มมาขึ้น และประเทศก้าวหน้ามากขึ้น

ทั้งนี้ Global Wellness Institute (GWI) องค์กรที่มุ่งเน้นงานวิจัยและข้อมูลทางการศึกษาด้านสุขภาพเชิงป้องกันและอุตสาหกรรม Wellness ทั่วโลก คาดการณ์ว่ากลุ่มธุรกิจ Wellness จะขยายตัวจนถึงปี 2568 และจะเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 7 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

อ้างอิงจาก:
https://www.thansettakij.com/health/567181
https://www.bangkokbiznews.com/health/1071633

ติดตาม ISAN Insight & Outlook ได้ที่
Instagram : https://www.instagram.com/isan.insight.and.outlook/
Website : https://isaninsight.kku.ac.th

#ISANInsightAndOutlook #อีสาน #อีสานอินไซต์#MedicalHub #Wellness #ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ#ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ #ธุรกิจwellness

Leave a Comment

Your email address will not be published.

Scroll to Top