พามาเบิ่ง🧐จำนวนแพทย์และพยาบาลแต่ละประเทศในกลุ่ม GMS 🥼👩⚕
ภาพรวมสถานการณ์ระบบการดูแลสูขภาพของจีน
- แพทย์ 25.18 ต่อ ประชากร 10,000 คน
- พยาบาล 35.20 ต่อ ประชากร 10,000 คน
ระบบประกันสุขภาพพื้นฐานมีความยั่งยืนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2019 มีรายได้จากกองทุนประกันสุขภาพพื้นฐานแห่งชาติ (รวมประกันการคลอด) มูลค่า 2.44 ล้านล้านหยวน และมีค่าใช้จ่ายมูลค่า 2.09 ล้านล้านหยวน นอกจากนี้ ระบบความช่วยเหลือทางการแพทย์ยังมีบทบาทสำคัญในการประกันความมั่นคงทางการแพทย์ให้กับประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้น้อย ด้วยการสนับสนุนให้ประชาชนกลุ่มนี้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์พื้นฐานได้ตั้งแต่ปี 2018 ความช่วยเหลือทางการแพทย์นี้ได้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อยประมาณ 480 ล้านคน รวมมูลค่าประมาณ 330 พันล้านหยวน และได้ดำเนินมาตรการลดความยากจนโดยเฉพาะสำหรับผู้คนที่เจ็บป่วยร้ายแรงกว่า 10 ล้านคนเพื่อให้พวกเขามีความมั่นคงทางการแพทย์เบื้องต้น
องค์กรต่าง ๆ ในตลาดยังมีส่วนร่วมในการสนับสนุนระบบความปลอดภัยทางการแพทย์นี้ ทำให้ระบบความปลอดภัยทางการแพทย์หลายระดับกลายเป็นส่วนสำคัญของการรักษาพยาบาลในประเทศจีน
ภาพรวมสถานการณ์ระบบการดูแลสูขภาพของกัมพูชา
- แพทย์ 2.14 ต่อ ประชากร 10,000 คน
- พยาบาล 10.25 ต่อ ประชากร 10,000 คน
ระบบสาธารณสุขของกัมพูชาได้มีการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1990 ผ่านกระบวนการปฏิรูปที่ยาวนาน สถานะสุขภาพของประชาชนได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 1993 อัตราการตายลดลงและอายุขัยเฉลี่ยเมื่อเกิดเพิ่มขึ้นเป็น 62.5 ปีในปี 2010 เพิ่มขึ้น 1.6 เท่าจากปี 1980 กัมพูชาอยู่ในเส้นทางที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ กระทรวงสาธารณสุข (MOH) มีบทบาทสำคัญในการวางแผนและพัฒนาระบบสาธารณสุข โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานพัฒนาอื่น ๆ
การปฏิรูปการจัดการและการบริหารด้านสุขภาพมีการดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน หนึ่งในขั้นตอนแรกคือการแปลงสถานะของหน่วยงานปฏิบัติการสุขภาพเกือบหนึ่งในสามให้เป็นหน่วยงานพิเศษซึ่งมีความเป็นอิสระในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์และการเงินมากขึ้น และได้รับเงินทุนเพิ่มเติมผ่านการสนับสนุนการให้บริการโดยตรง การแปลงสถานะนี้มีเป้าหมายเพื่อให้การบริหารจัดการมีความเป็นอิสระมากขึ้น เพิ่มแรงจูงใจให้กับพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ
ภาพรวมสถานการณ์ระบบการดูแลสูขภาพของลาว
- แพทย์ 3.27 ต่อ ประชากร 10,000 คน
- พยาบาล 11.83 ต่อ ประชากร 10,000 คน
ระบบสาธารณสุขของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 โดยมีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพในปี 2008-2015 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรด้านการพัฒนาเพื่อช่วยกำหนดนโยบายสุขภาพตามเป้าหมายของ MOH เป้าหมายหลักของการปฏิรูปสุขภาพในระยะยาวคือให้บริการสุขภาพที่ทั่วถึง อย่างไรก็ตามยังมีความท้าทายหลายประการในการดำเนินงาน
การลงทุนจากรัฐบาลในด้านสุขภาพมีการเพิ่มขึ้น แต่ยังคงอยู่ที่เพียง 1.4% ของ GDP และการพึ่งพาการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองสูงถึง 61% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด การเบิกจ่ายเงินสำหรับการประกันสุขภาพ แบบล่วงหน้าครอบคลุมเพียง 19.6% ของประชากร ทำให้กลุ่มคนรายได้น้อยยังเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้ยาก
นโยบายและยุทธศาสตร์ของรัฐบาลยังไม่ได้รับการดำเนินการอย่างเต็มที่ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงการเก็บข้อมูลสุขภาพ การลดการพึ่งพาการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง และการนำร่างนโยบายการเงินสุขภาพมาปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนจากผู้บริจาคยังมีความสำคัญ แต่ต้องมีการปรับโปรแกรมผู้บริจาคให้สอดคล้องกับความสำคัญของชาติ
ภาพรวมสถานการณ์ระบบการดูแลสูขภาพของเวียดนาม
- แพทย์ 8.33 ต่อ ประชากร 10,000 คน
- พยาบาล 14.54 ต่อ ประชากร 10,000 คน
ระบบสาธารณสุขของเวียดนามมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยประกอบด้วยศูนย์สุขภาพระดับชาติ จังหวัด อำเภอ และชุมชน ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา เวียดนามได้ขยายความครอบคลุมของประกันสุขภาพแบบถ้วนหน้าและลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ การลงทุนในงานวิจัยและพัฒนาได้นำไปสู่การพัฒนาวัคซีนสำหรับ SARS-CoV-2 อย่างไรก็ตาม ระบบสาธารณสุขยังคงประสบกับความท้าทายหลายประการ เช่น การขาดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการข้อมูลและการขาดแคลนบุคลากรในพื้นที่ชนบท
Dr.Vu Thanh Nam กล่าวว่า สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเป็นประเทศที่ผ่านสงครามหลายครั้ง และต้องเผชิญกับปัญหาหลายอย่างที่นับเป็นเวลายากลำบากของประเทศ แต่หลังจากเวียดนามได้รวมชาติสำเร็จแล้ว ได้เข้าสู่ยุคการพัฒนาประเทศ หลังปี 2518 เวียดนามได้กำหนดเป้าหมายเพื่อมุ่งให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข “ขณะนี้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของเวียดนามสามารถครอบคลุมประชากรราวร้อยละ 80 ของประชากรประเทศ และตั้งเป้าหมายให้ประชากรเวียดนามทั้งหมดมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าดูแลภายใน 5 ปีจากนี้” โดยกลไกในการควบคุมค่าใช้จ่าย การจัดระบบจ่ายชดเชย และการตรวจสอบที่เข้มแข็งเป็นส่วนสำคัญที่เวียดนามได้ศึกษาเรียนรู้จากไทย โดยในส่วนการจ่ายชดเชยค่าบริการให้กับหน่วยบริการ เวียดนามได้ดำเนินใน 3 รูปแบบเช่นเดียวกับไทย คือ 1.การจ่ายตามจริง 2.เหมาจ่ายรายหัว และ 3.การจ่ายตามรายการกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม (Diagnostic related group : DRG) โดยระบบ DRG เวียดนามได้พัฒนาในเวอร์ชั่นที่ 1 แล้ว แต่ด้วยในทางปฏิบัติยังติดขัดปัญหาหลายอย่าง อาทิ การใส่รหัสโรคเบิกจ่าย การกำหนดกลุ่มโรค การตรวจสอบการเบิกจ่าย เป็นต้น ทำให้ต้องเรียนรู้ประสบการณ์จากไทยเพื่อนำไปพัฒนาและปรับปรุงให้เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของเวียดนาม
ภาพรวมสถานการณ์ระบบการดูแลสูขภาพของไทย
- แพทย์ 9.28 ต่อ ประชากร 10,000 คน
- พยาบาล 30.78 ต่อ ประชากร 10,000 คน
- แพทย์ 3.90 ต่อ ประชากร 10,000 คน
- พยาบาล 22.49 ต่อ ประชากร 10,000 คน
นอกจากนี้ยังมีระบบประกันสังคม (SSS) ที่ให้บริการสุขภาพสำหรับผู้ที่ทำงานในบริษัทเอกชนและรัฐวิสาหกิจ ส่วนข้าราชการและครอบครัวได้รับการดูแลผ่านโครงการสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ (CSMBS) ระบบเหล่านี้ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่จำเป็น
สำหรับชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้ผ่านการประกันสุขภาพภาคเอกชน ซึ่งมีหลายบริษัทให้บริการโดยครอบคลุมการรักษาพยาบาลทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน คุณภาพการรักษาพยาบาลในประเทศไทยได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยมีการใช้เทคโนโลยีและมาตรฐานการรักษาที่ทันสมัย
ที่มา: World Health Organization (WHO), รายงานข้อมูลทรัพยากรสาธารณสุข ประจำปี 2566
หมายเหตุ: ตัวเลขที่แสดงเป็นตัวเลขปีล่าสุดของแต่ละประเทศที่ถูกแสดงและจัดเก็บจาก World Health Organization (WHO)