ทำไม อิสราเอล จึงเป็นหมุดหมายสำคัญของแรงงานอีสาน?
อาคารของสถานีโทรทัศน์อิหร่านในกรุงเตหะราน ถูกโจมตีโดยอิสราเอลเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 เสียงระเบิดดังสนั่นเกิดขึ้นก่อนที่ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐอิหร่าน (State TV) ซึ่งกำลังออกอากาศสดต้องลุกหนี ท่ามกลางเศษซากและฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย และเสียงตื่นตระหนกของคนในสถานี ก่อนหน้านี้มีเสียงระเบิดดังขึ้นแล้วหลายครั้ง แต่ผู้ประกาศยังคงรายงานสถานการณ์ โดยระบุว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นคือการที่ระบอบไซออนิสต์รุกรานอิหร่านและสื่อของรัฐ แต่สุดท้ายก็ต้องลุกหนีไป กลุ่มควันพวยพุ่งจากเหตุระเบิดทางตะวันตกเฉียงใต้ของเตหะรานเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2025 สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐของอิหร่านถูกโจมตีโดยอิสราเอลจนไม่สามารถออกอากาศได้ชั่วคราว ถ่ามกลางข่าวการปะทะ อิหร่าน – อิสราเอล นั้น แรงงานไทยที่ไปขายแรงที่ต่างแดนก็ต้องตกอยู่ในสภาวะทางสงคราม ทำไม อิสราเอล จึงเป็นหมุดหมายสำคัญของแรงงานอีสาน? เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า ภาคอีสาน เป็นภูมิภาคที่มีสัดส่วนการส่งออกแรงงานไปยังต่างประเทศสูงที่สุดของไทย ปัจจัยสำคัญมาจากข้อจำกัดด้านรายได้ เนื่องจากเศรษฐกิจในภาคอีสานยังคงพึ่งพาเกษตรกรรมเป็นหลัก ซึ่งขึ้นอยู่กับฤดูกาลที่ควบคุมไม่ได้ และราคาผลผลิตที่มีแนวโน้มผันผวนและไม่สูงมากนัก ทำให้ครัวเรือนจำนวนมากมีรายได้ไม่มั่นคง และมักประสบปัญหาหนี้สินเรื้อรัง ขณะเดียวกัน ภูมิภาคอีสานยังเผชิญข้อจำกัดด้านโอกาสในการจ้างงาน จากโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศที่เน้นการรวมศูนย์ ส่งผลให้งานส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเมืองหลวงและนิคมอุตสาหกรรม แม้งานบางประเภทจะมีในภูมิภาค แต่ค่าแรงก็ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ยของจังหวัดในภาคอีสานอยู่ที่ 350.5 บาทต่อวัน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั้งประเทศที่ 355 บาทต่อวัน นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยด้านค่านิยมที่ส่งเสริมให้การไปทำงานต่างประเทศของคนอีสานได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีต ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ เมื่อมีคนในหมู่บ้านหนึ่งเดินทางไปทำงานต่างประเทศและสามารถส่งเงินกลับมาช่วยเหลือครอบครัว จนฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็ทำให้คนอื่นๆ ในชุมชนมองเห็นโอกาสว่าการไปทำงานต่างแดนนั้นคือ ‘ความหวัง’ และต้องการเดินรอยตาม เกิดเป็นค่านิยมในสังคมอีสานที่มองว่าการไปทำงานต่างประเทศคือหนทางหนึ่งในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัว จากปัจจัยเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่แรงงานจากภาคอีสานจำนวนมากเลือกย้ายถิ่นฐานไปหางานในต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ เพื่อแสวงหารายได้ที่มั่นคงกว่าและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2568 มีแรงงานจากภาคอีสานเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกกฎหมายจำนวนทั้งสิ้น 14,206 คน โดยจังหวัดที่มีจำนวนแรงงานไปทำงานต่างแดนมากที่สุดคือ อุดรธานี ซึ่งมีประวัติการส่งออกแรงงานไปต่างประเทศมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในอดีตที่ ซาอุดีอาระเบีย เคยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของแรงงานจากจังหวัดนี้ แล้วทำไมต้องเป็นอิสราเอล? นอกจาก ไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ที่เป็นประเทศยอดนิยมสำหรับแรงงานในภาคอีสานแล้วนั้น อีกประเทศที่นิยมไปกันคือ ‘อิสราเอล’ รัฐของชาวยิวที่เต็มไปด้วยสถานการณ์ความขัดแย้งกับชาวปาเลสไตน์ รวมไปถึงชาวอาหรับโดยรอบตลอดเวลาตั้งแต่ก่อตั้งประเทศในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยล่าสุดวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 รัฐอิสราเอล ได้มีการปะทะกับอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียบาดเจ็บและชีวิตจำนวนมากในทั้ง 2 ประเทศ แต่แม้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศนี้จะไม่เคยสงบ แต่ทำไม แรงงานชาวไทย โดยเฉพาะภาคอีสาน จึงเดินทางไปทำงานที่นั่นอย่างไม่ขาดสาย? รัฐอิสราเอลนั้นตั้งอยู่ในดินแดนที่เต็มไปด้วยความแห้งแล้งและทะเลทราย ไม่ได้มีทรัพยากรธรรมชาติมากนัก แต่ถึงอย่างนั้น อิสราเอลก็ได้ทำการพัฒนาพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านเกษตรกรรมจนกลายเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญของโลก ทั้ง พืชสวน เช่น ส้ม, อะโวคาโด, มะเขือเทศ และธัญพืช เช่น ข้าวสาลี, ข้าวบาร์เลย์, ข้าวโพด จนไปถึงการเลี้ยงปศุสัตว์อย่าง โคนม, ไก่ไข่, ไก่เนื้อ เป็นต้น แต่ภาคเกษตรกรรมของอิสราเอลก็ประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างมาก เหตุผลนั้นเริ่มมาจากประวัติศาสตร์และสังคมของอิสราเอล อิสราเอลมีประวัติศาสตร์ความขัดแย้งกับปาเลสไตน์และกลุ่มฮามาสมายาวนาน ส่งผลให้แรงงานท้องถิ่นโดยเฉพาะชาวปาเลสไตน์ไม่สามารถทำงานในหลายพื้นที่ได้ ทำให้เกิดช่องว่างแรงงานในภาคเกษตรและภาคบริการ ดร.เมเอียร์ ชโลโม (เอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย) ด้วยเหตุนี้ […]
ทำไม อิสราเอล จึงเป็นหมุดหมายสำคัญของแรงงานอีสาน? อ่านเพิ่มเติม »