Cambodia อาจเป็น (S)cambodia เมื่ออุตสาหกรรม Scam มีรายได้กว่า 40% ของ GDP กัมพูชา
ฮู้บ่ว่าHumanity Research Consultancy คาดการณ์กัมพูชามีรายได้จาก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คิดเป็น 40-60% ของ GDP หรือประมาณ 1.2-1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กัมพูชา ประเทศเพื่อนบ้านที่ถูกหลายประเทศเฝ้าระวังเนื่องจากมีโอกาสเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อันเนื่องมาจากการเอื้อประโยชน์ระหว่างภาครัฐฯ อาชญากร และทุนสีเทาจากต่างประเทศ เศรษฐกิจในเบื้องหน้าของกัมพูชา ถูกผลักดันด้วยภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก ด้วยสัดส่วนร้อยละ 30 ของ GDP ประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งทอ ที่เป็นสินค้าส่งออกหลัก และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของกัมพูชาที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นกว่า 5.6% ในปี 2567 รูปที่ 1: เปรียบเทียบโครงสร้าง GDP กัมพูชาปี 2566 และรายได้จากธุรกิจสแกมเมอร์ อีกทั้งกระแสของการลงทุนจากต่างชาติที่เริ่มไหลเข้ามาลงทุนในกัมพูชามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการลงทุนจากประเทศจีนภายใน 10 ปีให้หลังมานี้ ที่คิดเป็นกว่า 61% ของการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่เป็นแรงผลักดันให้กัมพูชามีการเติบโตทางการค้าและการลงทุนมากยิ่งขึ้น แต่ในอีกมุมึง กัมพูชาก็กำลังเติบโตผ่านการเป็นศูนย์กลางของธุรกิจสีเทา ที่ได้รับการเอื้อประโยชน์จากผู้มีอำนาจหรือแม้กระทั่งการปิดตาข้างนึงจากคนบางกลุ่มของฝั่งของรัฐบาลกัมพูชาเอง รายงานของ Humanity Research Consultancy ระบุว่ารายได้จากอาชญากรรมไซเบอร์ของกัมพูชาอาจมีมากถึง 1.2 – 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงจนน่าตกใจ เนื่องจากรายได้ดังกล่าวนี้หากคิดเป็นสัดส่วนอาจสูงกว่า 40% ของ GDP สะท้อนถึงอุตสาหกรรมผิดกฎหมายที่มีขนาดใหญ่ และหากตัวเลขดังกล่าวเป็นจริงอาจหมายถึงขนาดของอุตสาหกรรมฉ้อฉลที่ใหญ่มากกว่า GDP ของภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรมของกัมพูชารวมกัน อุตสาหกรรมอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่มีขนาดใหญ่ได้ขนาดนี้ จะไม่สามารถเติบโตได้เลยหากไม่มีการเอื้อประโยชน์จากผู้มีอำนาจ เครือข่ายอุปถัมภ์ หรือแม้กระทั้งอาจมีคนในรัฐบาลบางส่วนที่เพิกเฉยและชี้ว่าไม่มีการดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย หรือแม้กระทั่งการให้การสนับสนุน อีกทั้งทุนสีเทาจากจีนที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการเข้ามาลงทุนในโครงการหรือเข้ามาผ่านบริษัทนอมินี เพื่อใช้ช่องโหว่และโอกาสในการแสวงหาผลประโยชน์จากอุตสาหกรรมผิดกฎหมายนี้ ตลอดจนโอกาสในการใช้ประโยชน์จากธุรกิจกาสิโนที่มีอยู่เดิมในการเป็นแหล่งฟอกเงินผิดกฎหมาย ที่เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยให้เครือข่ายเหล่านี้สามารถขยายตัวอย่างรวดเร็วได้ภายในเวลาไม่นาน อาชญากรรมผิดกฎหมาย และธุรกิจสีเทา ไม่จะเป็นธุรกิจสแกม การฟอกเงิน ตลอดจนการค้ามนุษย์ ในกัมพูชา อาจสร้างผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และความเชื่อมั่นของนานาประเทศ จากการดึงแรงงานผิดกฏหมายจากหลายแห่งเข้ามา และการไหลออกของเงินสีเทาที่กระจายไปภายนอก ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาคว่ำบาตรบริษัทในกัมพูชาที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน โดยบริษัทที่ถูกกล่าวหาว่าฟอกเงินมีชื่อว่า “Huione Group” บริษัทนี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับคาสิโนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองพระสีหนุ ซึ่งเป็นเมืองท่าชายฝั่งทะเลของกัมพูชา อีกทั้งยังมีข้อกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ ธนาคารเถื่อน ที่เป็นศูนย์กลางในการฟอก และโยกย้ายเงินทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย และสหรัฐฯ ยังแสดงท่าทีตอบโต้ทางการค้ากับกัมพูชา ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากกัมพูชากว่า 49% ซึ่งนับว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับการขึ้นภาษีต่อประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังขึ้นภาษีสินค้าจากบริษัทที่เป็นนอมินีจากจีน โดยได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าประเภทแผงโซลาร์เซลล์จากกัมพูชาในอัตราสูงสุดถึง 3,521% ซึ่งส่วนนึงเป็นแนวทางการลดการขาดดุลทางการค้ากับกัมพูชา แต่อีกนัยนึงก็อาจเป็นการปิดช่องโหว่ในการสวมสิทธิกัมพูชาในการส่งออกสินค้าของจีน และลดการไหลออกของกระแสเงินทุนสีเทาภายในกัมพูชา อ้างอิง : Humanity research consultancy, Salika, KResearch, Trading Economics, พามาเบิ่ง🧐การค้าชายแดนไทย – กัมพูชาเสี่ยงชะลอตัว หากต้องปิดด่านระยะยาว ‘สามเหลี่ยมมรกต อุบลราชธานี’ ชายแดนสามเส้า ไทย – ลาว – กัมพูชา … Continue reading Cambodia อาจเป็น (S)cambodia เมื่ออุตสาหกรรม Scam มีรายได้กว่า 40% ของ GDP กัมพูชา
Copy and paste this URL into your WordPress site to embed
Copy and paste this code into your site to embed