พามาเบิ่ง ย้อนรอยข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนไทย – กัมพูชา
ISAN Insight สิพามาย้อนเบิ่ง เหตุการข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนไทย – กัมพูชา เป็นมาจังได๋ . ไทย กับกัมพูชานับว่าเป็นเพื่อนบ้านที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในภาคอีสาน ที่มีพื้นที่พรมแดนติดกับประเทศกัมพูชา ทำให้คนในพื้นที่ชายแดนในภาคอีสานมีการใช้วัฒนธรรมบางส่วนร่วมกันกับกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็น ด้านประเพณี ศาสนา รวมถึงสถาปัตยกรรม แต่ยุคสมัยล่าอาณานิคม ไทยได้สูญเสียดินแดนบางส่วนในกัมพูชา ณ ปัจจุบันให้กับฝรั่งเศสไป ทำให้เกิดการปิดกั้นด้านการติดต่อระหว่างประเทศของคนในพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็นเวลากว่า 90 ปีที่กัมพูชาอยู่ภายใต้ฝรั่งเศส . ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กัมพูชาได้ประกาศเอกราชจากฝรั่งเศส และได้ยึดเอาเส้นแบ่งเขตแดนที่เคยอยู่ในสนธิสัญญาสยาม – ฝรั่งเศสเป็นหมุดในการขีดเส้นเขตแดนประเทศโดยใช้เส้นสันปันน้ำที่ฝรั่งเศสจัดทำขึ้น ซึ่งในบางกรณีไทยไม่ได้ยอมรับแผนที่เหล่านั้นอย่างเป็นทางการ ทำให้ในแถบชายแดนบางพื้นที่กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนที่ต้องมีการเจรจาตกลงกัน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ . ข้อพิพาทคดีปราสาทพระวิหารที่ถูกตัดสินไปเมื่อปี พ.ศ.2505 โดยศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เริ่มจากมีบทความในปี พ.ศ.2501 ที่พาดพิงจากกัมพูชาถึงการใช้กำลังทหารเข้ายึดปราสาทเขาพระวิหารโดยไทย และสื่อวิทยุจากฝั่งกัมพูชาก็พยายามผลักดันเรื่องนี้จนเกิดกระแส การทวงคืนปราสาทพระวิหารจากไทย แม้ว่าจะยังไม่รุนแรงมากนัก แต่เนื่องจากอาชญกรรมในแถบชายแดนที่เกิดขึ้น ทำให้รัฐบาลไทยในขณะนั้นได้เสนอให้มีการดำเนินการตรวจสอบเส้นเขตแดน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลกัมพูชา ทำให้ความสัมพันธ์เริ่มทรุดลงอย่างรวดเร็ว ต่อมารัฐบาลของไทยได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดที่ติดกับกัมพูชา อีกทั้งยังมีการเดินขบวนของคนไทยเพื่อประท้วงกัมพูชาในการอ้างกรรมสิทธิเหนือเขาพระวิหาร และมีการโจมตีโต้ตอบกันระหว่างสื่ออยู่เรื่อยๆ นำไปสู่การตัดสัมพันธ์ทางการทูตและฟ้องร้องต่อศาลโลกในที่สุด ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินคดีของเขาพระวิหารด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 3 และยกให้ตัวปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชาในที่สุด เนื่องจากในอดีตไทยเคยพบว่ามีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนนี้อยู่แล้ว แต่ยังคงใช้แผนที่ที่แสดงว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชาอยู่ และพิจารณาว่ารัฐบาลไทยในขณะนั้นได้ยอมรับว่า ฝรั่งเศส มีอำนาจอธิปไตยเหนือเขาพระวิหารเป็นเวลายาวนานถึง 50 ปีมาแล้ว จึงทำให้เป็นการยอมรับไปโดยปริยาย . กรณีพิพาทพรมแดนไทย – กัมพูชา พ.ศ.2554 นับเป็นการพิพาทระหว่างประเทศที่ค่อนข้างรุนแรงระหว่างไทยและกัมพูชา เนื่องจากเกิดการปะทะกันทางกำลังทหารระหว่าง 2 ประเทศ และหลายพื้นที่ชายแดนในอีสานใต้ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติสงคราม อีกทั้งยังมีทหารและพลเรือนเสียชีวิตหลายราย เหตุการณ์ความขัดแย้งเริ่มต้นจากการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของทางกัมพูชา ซึ่งได้ขีดเส้นล้ำเข้ามายังพื้นที่ทับซ้อนที่บริเวณพื้นที่รอบๆปราสาท ซึ่งทางไทยได้ออกมาโต้แย้งและเกิดการชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบด้านการแบ่งเขตแดนอีกครั้ง และทางกัมพูชาจึงได้เปลี่ยนแผนที่แบ่งเขตแดนใหม่ซึ่งจดทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทเท่านั้นโดยไม่ล้ำเข้ามาในพื้นที่ของไทย โดยที่ทางสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้มีการพิจารณาเห็นชอบแล้ว ต่อมาได้มีการเดินประท้วงจากฝั่งไทยเนื่องจากไม่ได้มีการเปิดเผยแผนที่ให้ประชาชนรับรู้ในกรณีข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร และได้รวบรวมรายชื่อเพื่อคัดค้านการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของทางกัมพูชา แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการขึ้นทะเบียนไว้ได้ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์และการตั้งข้อสงสัยของการตัดสินมากมายจากประชาชนชาวไทย ลุกลามไปจนถึงการปะทะกันทางกำลังทหารของทั้ง 2 ประเทศครั้งแรกภายในวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552 อีกทั้งยังเกิดเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงหลายต่อหลายครั้งและเกิดการปะทะกันในที่ชุมนุมจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บไปจำนวนหนึ่ง เหตุการณ์ปะทะกันด้วยกำลังทหารในพื้นที่ชายแดนลากยาวไปจนกระทั่งปี 2554 ที่กัมพูชาได้ยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเพื่อขอให้ศาลตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร พ.ศ. 2505 และยื่นคำร้องต่อศาลเดียวกันเพื่อขอให้ศาลระบุมาตรการคุ้มครองชั่วคราวเพื่อรักษาสิทธิของกัมพูชาอย่างเร่งด่วน ซึ่งปัจจุบันคดีดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างกระบวนพิจารณาของศาล . พื้นที่ทับซ้อนในแถบอีสานใต้ ณ ปัจจุบัน ปัจจุบันพื้นที่ในแถบชายแดนไทย – กัมพูชาในจังหวัด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมภ์ยังคงมีพื้นที่ทับซ้อนที่ไม่ได้มีเส้นแบ่งเขตแดนที่ชัดเจนอยู่ ซึ่งได้มีการสำรวจและกำกับดูแลจากหลายหน่วยงานของภาครัฐอยู่เรื่อยๆ อีกทั้งชาวบ้านในแถบชายแดนก็ยังมีการใช้พื้นที่ร่วมกัน ทั้งในการทำเกษตรกรรมรวมไปถึงการค้าชายแดน . พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล และความกังวลของคนไทยในเรื่องเกาะกูด การขีดเส้นแบ่งทางทะเลนับว่าเป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายๆประเทศต้องเผชิญคล้ายๆกัน เนื่องจากความต้องการในการใช้ทรัพยากรที่อยู่ใต้ทะเล … Continue reading พามาเบิ่ง ย้อนรอยข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนไทย – กัมพูชา
Copy and paste this URL into your WordPress site to embed
Copy and paste this code into your site to embed